มั่งคั่งได้ถ้า ” อดทน “

เช่าพื้นที่โฆษณา   เช่าพื้นที่โฆษณา   
หลายๆคนพอพูดถึงเรื่องเงินๆทองๆแล้วหร่ะก็ คงจะมีหลายคนบอกว่า “เงินทองแต่ละวันแต่ละเดือนนั้นแทบไม่พอใช้จ่ายเลย” บางคนก็บอกว่า “เงินทองมีมากจนใช้ไม่หมดเลย ใครก็ได้มาช่วยใช้ที” แต่สำหรับบทความนี้ผมค่อนข้างแน่ใจว่ามันเหมาะมากสำหรับคนที่เมื่อพูดถึงเรื่องเงินๆทองๆแล้วมักจะเปรยออกมาเหมือนในประโยคแรก บทความนี้จะอธิบายถึงวิธีพื้นฐานที่จะช่วยสร้างความมั่งคั่งของคุณได้ในอนาคตด้วยวิธีทำง่ายๆที่เรียกว่า ” ความอดทน “

   หลายๆคนเมื่อพูดถึงความอดทนคงสงสัยว่า “แล้วฉันควรอดทนแค่ไหนหร่ะ?” หรือ “แล้วความอดทนมันจะช่วยสร้างความมั่งคั่งให้ฉันได้อย่างไร?”

ความอดทนนั้นเป็นพื้นฐานของการสร้างความมั่งคั่ง ถ้าหากคุณไร้ซึ่งความอดทน ก็ไร้ซึ่งความมั่งคั่ง ถ้าคุณยังสงสัยอยู่ งั้นเรามาดูตัวอย่างเล็กๆน้อยๆกัน ” สมมติว่าคุณอยากจะได้โทรศัพท์ใหม่ ทั้งๆที่โทรศัพท์เครื่องเก่าก็ยังใช้ได้ดีอยู่และคุณมีเงินเก็บอยู่ 25,000 บาท แล้วคุณนำเงินที่มีอยู่ทั้งหมดไปซื้อโทรศัพท์ เงินของคุณก็จะหมดไป แต่ถ้าหากคุณนำเงินไปลงทุนและการลงทุนของคุณให้ผลตอบแทน 5% ต่อปี สมมติคุณนำเงินไปลงทุนเป็นเวลา 1 ปี คุณจะมีเงินทั้งหมด 26,250 บาท คิดเป็นเงินที่เพิ่มขึ้น 1,250 บาท หรือถ้าคุณนำเงินไปลงทุนเป็นเวลา 14 ปี และได้ผลตอบแทน 5% ต่อปี คุณจะมีเงินทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว ” เห็นหรือยังหร่ะครับว่าแค่คุณมีความอดทนยังไม่ซื้อในสิ่งที่ไม่จำเป็นจริงๆและนำเงินไปลงทุนต่อแล้วหร่ะก็เงินของคุณก็จะงอกเงยแบบนี้นี่เอง

ผมมีงานทดลองขึ้นชื่อชิ้นหนึ่งซึ่งได้มาจากเว็บไซด์ของ TSI เป็นการศึกษาทดลองของ Walter Michel ที่รู้จักกันในชื่อ ” Marshmallow Experiment ” เป็นการทดลองที่ดีและสามารถบอกเราได้ว่าความอดทนนั้นมีผลดีต่อเราอย่างไรบ้าง

โดย Michel ได้ให้อำนาจในการตัดสินใจแก่เด็กน้อยก่อนวัยเรียนในการเลือกระหว่างขนมปังกรอบเค็มเพรทเซลคุ้กกี้ หรือมาสเมลโลขนาดยักษ์ โดยเด็กๆ จะถูกนำเข้ามาในห้องทดลองที่ปราศจากสิ่งรบกวนอื่น (นอกจากขนมตรงหน้า)ทีละคน และสามารถที่จะเลือกกินขนมได้ในทันที หรือให้รอประมาณ 15 นาที และจะได้รับขนมเพิ่มเป็น 2 เท่า

ผลที่ได้ คือ เด็กจำนวนหนึ่งเลือกที่จะกินในทันที และในจำนวนเด็กที่เลือกที่จะรอ ไม่ว่าจะรอด้วยวิธีปิดตาย่ำเท้าไปมา หรือลุกออกจากเก้าอี้ และออกให้ห่างจากเจ้าขนมแสนหอม พบว่า… จำนวน 1 ใน 3 รอได้สำเร็จและได้รับรางวัลตามที่ Mischel สัญญาไว้ การติดตามผลในอีกเกือบ 10 ปีให้หลัง Mischel พบว่า… เด็กที่สามารถควบคุมตัวเองได้จนได้รับรางวัลมาสเมลโลชิ้นที่สอง มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ดีกว่าเด็กที่ไม่สามารถคุมตัวเองได้สำเร็จ และการควบคุมตัวเองได้มากหรือน้อยนี้จะเป็นพฤติกรรมที่ติดตัวเด็กๆ ไปจนโต

ถ้าจะเปรียบกับเราแล้วหร่ะก็คงไม่ต่างอะไรไปจากการมีส่งเร้าต่างๆนานาเข้ามาในชีวิต ” ไม่ว่าจะเป็นของลดราคาหรือโปรโมชั่นต่างๆ ” ฉนั้นแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับเราว่าเราจะอดทนรอเพื่อรับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นในอนาคตได้หรือไม่

Credit : ข้อมูลจาก http://www.tsi-thailand.org

ผู้อ่านสามารถเข้าไปดาวน์โหลดข้อมูลอ้างอิงเพิมเติมได้ที่ http://www.tsi-thailand.org/index.php?option=com_content&task=view&id=2091&Itemid=1290

เช่าพื้นที่โฆษณา   เช่าพื้นที่โฆษณา

ใส่ความเห็น